6 ศาสตร์ที่ควรเรียนรู้ก่อนเริ่มลงมือทำธุรกิจ

6 ศาสตร์ที่ควรเรียนรู้ก่อนเริ่มลงมือทำธุรกิจ

แม้ว่าจะมีนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมายที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจโดยที่เรียนไม่จบ หรือตัดสินใจออกจากการเรียนกลางคัน อย่าง Steve Jobs, Bill Gates, Mark Zuckerberg, Walt Disney และอีกหลายๆ คนก็ล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จได้แม้ว่าจะเรียนไม่จบแทบทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วคนกลุ่มนี้นับว่าเป็นส่วนน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับบรรดาคนที่เหลือที่ตัดสินใจทิ้งการเรียนไปกลางคัน เพราะในความเป็นจริงแล้วนั้น ความรู้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการเป็นผู้ประกอบการ และยังทำให้เราสามารถรู้แนวทางในการทำธุรกิจที่หลากหลายกว่าเดิมอีกด้วย และนี่ก็คือ 6 วิชาที่ผู้ประกอบการควรเรียนรู้ติดตัวไว้ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในอนาคต

1. การเงินและการบัญชี (Finance/Accounting)

หากใครได้ลองลงมือทำธุรกิจแล้วคงจะได้รู้ว่า 2 สิ่งที่ยุ่งยากและวุ่นวายในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ จนทำให้หมดเวลาไปทำอย่างอื่นเลยก็คือ หนึ่งการดูแลบัญชีการเงินของธุรกิจ และสองการจัดการเรื่องภาษี ซึ่งทั้ง 2 หน้าที่นี้หากขาดทักษะและความรู้ที่ดีในการจัดการแล้ว ช่วงเริ่มต้นของธุรกิจเรานั้นอาจกลายเป็นหายนะได้เลยทีเดียว

การลงเรียน การเงินและการบัญชีเบื้องต้นนั้นจะทำให้เราสามารถเข้าใจพื้นฐานของการทำบัญชีและการจัดการภาษีได้ไม่ยาก เพราะโดยทั่วไปแล้วในคอร์สการเงินเหล่านี้จะสอนถึงเรื่องของการควบคุมกระแสเงินสด (Cash Flow) และหลักการจ่ายภาษีเบื้องต้นเมื่อถึงเวลา นี่ยังไม่รวมไปถึงเนื้อหาที่น่าสนใจอย่างเรื่องของ ค่าเงินตามกาลเวลา, ความเสี่ยงในการลงทุน, ระเบียบและการจัดการเรื่องเงินปันผล และโครงสร้างของการบริหารเงินทุนอีกด้วย และส่วนด้านบัญชีก็จะสอนให้เราเข้าใจถึงสภาพของธุรกิจจากการดูมูลค่าทรัพย์สิน หนี้สิน การทำบัญชีในรูปแบบต่างๆ ทั้งในแบบงบดุล และอื่นๆ ที่มีประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจได้ไม่น้อยเลย

2. การตลาด (Marketing)

หากตัดสินใจเป็นผู้ประกอบการแล้วยังไงก็คงหนีไม่พ้นเรื่องขายและการตลาดอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าอย่างไรแล้วเราก็ต้องขายไอเดียหรือขายสินค้าให้กับนักลงทุนหรือลูกค้าทำให้ความรู้ด้านการตลาดจึงถือเป็นอีกส่วนที่สำคัญหลักๆ ในการทำธุรกิจเลยก็ว่าได้ ซึ่งคลาสการตลาดสักคลาสนึงน่าจะช่วยให้เราเปิดมุมมองและมีลูกเล่นต่างๆ ในการขายสินค้าและขายไอเดียมากขึ้น เช่น รู้ลึกถึงวิธีการพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ต้องการของลูกค้าโดยอาศัยการทำวิจัยหรือแบบสอบถาม ได้เรียนรู้วิธีการพัฒนาแคมเปญให้ถูกใจลูกค้าและเพิ่มยอดขายในจริงในการทำธุรกิจ รวมไปถึงการหาตลาดที่เหมาะสม การเพิ่มฐานลูกค้า และการดูแลให้ลูกค้าอยู่กับเราไปนานๆ ด้วย

3. เศรษฐศาสตร์ (Economics)

อีกหนึ่งวิชาที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจนั้นคือวิชาเศรษฐศาสตร์นั่นเอง เพราะวิชานี้นั้นจะทำให้เราเข้าใจถึงพื้นฐานกลไกความต้องการซื้อและความต้องการขาย รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุดด้วย ซึ่งทั้งนี้การเรียนเศรษฐศาสตร์นั้น ยังเป็นการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการวิเคราะห์ธุรกิจได้อีกด้วย เนื่องจากสามารถนำมาประยุกต์เป็นเครื่องมือในการคาดคะเนสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตรวมไปถึงผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ และหากเราสนใจที่จะศึกษาลงลึกไปอีกเราจะพบว่าหลักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจนั้นยังมีอะไรอีกมากมายที่นำมาปรับใช้ได้ไม่น้อยเลย

4. การบริหารจัดการ (Management)

หลุมพรางอย่างหนึ่งสำหรับผู้ประกอบการหลายๆ คนก็คือพวกเขามักมองว่าหลักสูตรการจัดการนั้นคือเรื่องง่ายๆ ที่พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้เองอยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องเรียน แต่คำถามก็คือถ้าหากบางคนไม่รู้ว่าตัวเองนั้นไม่มีทักษะในการบริหารโดยที่ไม่รู้ตัวและเดินหน้าบริหารแบบผิดๆ ถูกๆ ตามสัญชาตญาณไปล่ะจะเกิดอะไรขึ้น? ซึ่งแน่นอนว่าส่วนมากของธุรกิจที่เริ่มต้นอย่างนี้มักจะประสบความสำเร็จได้ค่อนข้างยาก หรือประสบความสำเร็จได้โดยที่ต้องเหนื่อยกว่าคนอื่นๆ อีกมาก

ซึ่งคลาสการบริหารนั้นจะช่วยให้เราเข้าใจถึงหลักการบริหารเบื้องต้น ที่เริ่มตั้งแต่เรื่องพื้นฐานอย่างการบริหารคนในทีม การบริหารลูกจ้างในรูปแบบต่างๆ การบริหารเงินทุน การบริหารเวลา และการบริหารองค์ประกอบต่างๆ ในการทำธุรกิจที่จะทำให้ธุรกิจของเรานั้นสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยจะมี Case Study ที่น่าสนใจประกอบอยู่ตลอดเวลา เพื่อทำให้เข้าใจเห็นภาพ และสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตนเองได้เช่นกัน

5. ทักษะการนำเสนอ (Public Speaking)

หากใครที่ยังไม่เคยนำขายไอเดียหรือขายสินค้าของตัวเองต่อหน้าคนเยอะๆ มาก่อนคงไม่เข้าใจหรอกว่าความรู้สึกแบบนั้นครั้งแรกน่ากังวลใจขนาดไหน หลายๆ ต่อหลายครั้งที่เราเห็นความไม่พร้อมของคนที่พยายามขาย และก็อีกหลายต่อหลายครั้งที่เรามองเห็นนักขายบางคนที่พูดและนำเสนอสินค้าแบบไม่มีแรงดึงดูด ไม่น่าฟัง และไม่กระตุ้นให้เกิดความอยากซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์ได้แม้แต่น้อย

คลาสทักษะการนำเสนอหรือ Public Speaking นั้นจะเป็นหนึ่งในอีกตัวช่วยที่จะทำให้เราก้าวผ่านไปหาข้างต้นไปได้ เพราะในคลาสนี้นั้นจะให้ความรู้โดยละเอียดทั้งเรื่องการจัดเรียงหัวข้อ การใช้คำ การใช้น้ำเสียง รวมถึงท่าทางประกอบการนำเสนอที่จะช่วยให้การนำเสนอของเรานั้นดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย แต่ทั้งนี้นอกจากการรับความรู้มาแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดจากการเรียนการนำเสนอนั้นก็คือการหมั่นฝึกซ้อมอยู่บ่อยครั้งเพื่อให้เกิดความคุ้นชิน มีการทดลองหาอะไรใหม่ๆ จากคลาสมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มความน่าสนใจเข้าไป และเรียนรู้วิธีที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อเกิดข้อผิดพลาดไปแล้วด้วย

6. เทคโนโลยีและการสื่อสาร (Communication and Technology)

จาก 5 ข้อที่ผ่านนั้นก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับทางด้านธุรกิจโดยตรงไปก็มากแล้ว ซึ่งในข้อนี้อาจมีความแตกต่างไปสักหน่อยแต่รับรองว่าเป็นอีกหลักสูตรที่น่าสนใจและได้ใช้อย่างแน่นอน เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีและการสื่อสารต่างๆ ก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตและเป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจอย่างปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ซึ่งในคอร์สนี้เราอาจจะไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงแต่อย่างน้อยเราก็จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ได้เปิดหูเปิดตาและพอเข้าใจกับการทำงานพื้นฐานของเทคโนโลยีต่างๆ ที่เราสามารถนำมาปรับใช้ว่าชนิดไหนที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่จะนำมาใช้งานในองค์กรเพื่อให้การทำงานนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งหมดนี้คือหลักสูตรที่ได้คัดสรรมาว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการเกือบทุกคน ซึ่งหลายๆ คนคงจะผ่านบางวิชามาบ้างแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีความรู้เหล่านี้หรือยังคิดว่าจะหาความรู้เพิ่มเติมแต่คิดว่าไม่ทันแล้วที่จะไปลงเรียนทั้งหมดนี้นั้น ก็สามารถค่อยๆ เรียนรู้ทักษะที่เราขาดหายไปได้ จากการหมั่นหาหนังสือดีๆ มาเติมความรู้และสิ่งใหม่ๆ ให้กับสมองตลอดเวลา หรือคอยหางานสัมมนาต่าง งานอบรมต่างๆ ที่มีหัวข้อเกี่ยวข้องกับ 6 ข้อข้างต้นก็ช่วยเพิ่มทักษะและความสามารถทดแทนได้เช่นกัน

 

ที่มา: INCquity.com

 1317
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจ้าของธุรกิจมักจะเน้นไปที่การสร้างยอดขายอยู่เสมอ แต่กว่าที่จะไปถึงขั้นนั้น มันเป็นเรื่องของการสร้างความน่าเชื่อถือบางอย่าง เพื่อให้ลูกค้าไว้วางใจ
CRM หมายถึง การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ทำให้ลูกค้าพึงพอใจกับสินค้า หรือบริการให้มากที่สุด
หากจะออกแบบโมเดลธุรกิจ ต้องทำให้มันแตกต่าง และ ยั่งยืน แต่จะทำยังไงให้ได้ตามที่หวัง ลองใช้ หลักในการคิดโมเดลธุรกิจ 7 อย่างนี้ดู
การทำธุรกิจในยุคศตวรรษที่ 21 เปลี่ยนรูปแบบจากในอดีตโดยสิ้นเชิง มาฟังเคล็ดลับดี ๆจาก ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ถึงปัจจัย 4 ข้อ นำพาธุรกิจไปสู่เป้าหมาย

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์