ปวดหัว! ปวดหัว! ปวดหัว! เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะได้ยินคนรอบตัวบ่นกันแบบนี้อยู่บ่อย ๆ และเผลอ ๆ ก็เป็นตัวคุณเองนั่นแหละที่ปวดหัวได้เป็นประจำ แต่ไม่ว่าจะปวดหัวด้วยสาเหตุไหน สิ่งที่คนเรามักจะนึกถึงกันเป็นอันดับแรกก็คือการทานยา ซึ่งแม้ว่าจะหายบ้างไม่หายบ้าง ก็ได้อุ่นใจว่าได้ทานยาไปแล้วล่ะ แต่คุณ ๆ รู้ไหมครับว่า นอกจากการทานยาแล้ว ยังมีอีกหลายวิธีที่ทำให้เราหายปวดหัวได้ ขอหยิบยกวิธีรักษาอาการปวดหัวโดยไม่ต้องพึ่งยามาฝากกัน ซึ่งหลายวิธีก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะต้องฝืนหลับกันซะหน่อย แต่พอได้หลับแล้ว ร่างกายของคุณก็จะซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง ช่วยให้คุณหายจากอาการปวดหัวได้ครับ
อาการท้องว่างเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลายคนปวดหัว และเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการปวดหัว ควรทานอาหารให้ตรงเวลา และทานอาหารที่ไขมันไม่สูงมาก จะช่วยให้คุณห่างจากอาการปวดหัวได้
สามารถทำให้คุณหายปวดหัวได้เช่นกัน คุณอาจดื่มชารสมิ้น ขิง หรือ ชาดอกคาโมมายล์ จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ดีทีเดียว
ลองหาเวลาเปิดเพลงผ่อนคลายเบา ๆ แล้วนั่งสมาธิดู ผ่อนคลายสมอง ให้สมองหยุดคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ นานาสักพัก คุณจะรู้สึกดีขึ้นจากอาการปวดหัว
อาการปวดหัวอาจมีสาเหตุจากงานหรือบรรยากาศโดยรอบ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว คุณสามารถออกไปเดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย หรือหาเวลาออกกำลังกาย เพราะจะทำให้เลือดในร่างกายไหลเวียนดีขึ้น ทำให้คุณไม่รู้สึกปวดหัวครับ
การขาดน้ำเป็นสาเหตุอีกข้อหนึ่งที่ทำให้คุณรู้สึกปวดหัว ดังนั้น คุณจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการในแต่ละวัน และควรดื่มน้ำธรรมดานะครับ คุณไม่ควรดื่มน้ำเย็น เนื่องจากน้ำเย็นจะทำให้คุณยิ่งปวดหัวมากขึ้น
หากคุณมีเวลาว่าง คุณก็อาจจะไปตามร้านนวด เพื่อนวดน้ำมันเป็นการผ่อนคลาย เพราะวิธีการนี้เป็นวิธีเก่าแก่ในการคลายเส้น บรรเทาอาการปวดหัวได้เป็นอย่างดี
เมื่อคุณเครียดจากปัญหาการทำงานหรือจากปัญหาชีวิตที่ทำให้คุณปวดหัว คุณควรเอาตัวเองออกจากสิ่งเหล่านั้นสักพัก เพื่อผ่อนคลายความเครียดบ้าง แล้วค่อยกลับไปเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านั้นใหม่ ซึ่งการผ่อนคลายความเครียด ก็ทำได้หลายวิธี เช่น อ่านการ์ตูนขำขัน ดูตลก หรือฟังคลื่นวิทยุที่เปิดเพลงสบาย ๆ จะช่วยทำให้อารมณ์คุณเปลี่ยน และทำให้อาการปวดหัวจางหายไปได้
และนี่ก็คือทั้ง 8 วิธีรักษาอาการปวดหัวโดยไม่ต้องพึ่งยาที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ คุณสามารถทำได้เอง โดยใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมาย และเป็นการรักษาที่ต้นเหตุ ดีกว่าการทานยา ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงที่เราไม่ทราบได้ ยังไงก็ลองทำตามกันดูนะครับ
ที่มา men.kapook.com